Power Bank แบตเตอรี่สำรอง เลือกซื้ออย่างไร วิธีง่ายๆมาบอก
Power Bank หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแบตเตอร์รี่สำรอง เป็นอุปกรณ์เสริมชนิดหนึ่งที่ในปัจจุบันหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะ Power Bank คือตัวช่วยในการชาร์ตแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อิเลคโทรนิคหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เครื่องเล่น mp3 เป็นต้น และในปัจจุบันอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ก็มีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนทำให้ในแต่ละวันพลังงานแบตเตอร์รี่ที่เราชาร์ตกันมาเต็มที่แล้วไม่พอใช้งาน และการพกพาที่ชาร์ตไปในสถานที่ต่างๆ ก็ไม่สะดวกนัก จึงทำให้ Power Bank ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะพกพาสะดวกและมีน้ำหนักไม่มาก และถ้าคุณกำลังมองหา Power Bank สักอัน วันนี้ลองมาดูกันก่อนดีกว่าควรพิจารณาจากอะไรกันบ้าง
วิธีการเลือก Power Bank
- เลือกจากขนาดความจุของอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ เช่น มือถือ สมาร์ทโฟน หรือแท็ปเล็ตของเราว่าใช้กี่แอมพ์
- ดูลักษณะการใช้งานในชีวิตประจำวัน ถ้าคุณต้องรับส่งข้อมูลต่างๆ ตลอดเวลาก็ควรเลือกแบบที่มีความจุมากหน่อย เพื่อให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่พลาดข่าวสารหรือการติดต่อ
- ดูข้อมูลและศึกษารายละเอียดของแต่ละยี่ห้อ แต่ละแบบ เพื่อเป็นตัวช่วยในการพิจารณาเลือกซื้อ เพราะปัจจุบันมี Power Bank ออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมากและหลากหลายยี่ห้อ และมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
- ควรเลือกใช้ยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปหรือแบบที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้สถานที่จำหน่ายก็ต้องเชื่อถือได้ด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้คุณมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ ถึงแม้จะมีราคาค่อนข้างแพงก็ตาม เพราะ Power Bank ที่มีราคาถูก โดยมากแล้วจะเก็บประจุไฟในแบตเตอรี่ไม่ดี และมีการคายประจุเร็ว ถึงแม้เราจะชาร์จจนเต็ม 100% แล้วก็ตาม เวลานำมาใช้จะเหลือไฟน้อยมากหรือใกล้หมด
- ชนิดของแบตเตอรี่ที่ใช้ใน Power Bank ที่มีคุณภาพดีส่วนใหญ่จะเป็น Lithium Ion หรือ Lithium Polymer ซึ่งทั้งสองแบบจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน เวลาเลือกซื้อสามารถอ่านรายละเอียดที่ระบุในตัวบรรจุภัณฑ์ก่อนได้ สำหรับความแตกต่างของแบตเตอร์รี่ทั้งสองชนิดนี้จะพอสรุปได้คือ แบบ Lithium Ion จะมีความหนากว่า และให้พลังงานสูงกว่า ส่วนแบบ Lithium Polymer จะมีความเบาบางกว่า แต่ก็มีพลังงานน้อยกว่าด้วยเช่นกัน
- ใบรับประกันหลังการขาย อันนี้ถือว่าสำคัญโดยเฉพาะถ้าเราเลือกซื้อ Power Bank ที่มีราคาแพงควรถามถึงใบรับประกันด้วยทุกครั้ง ซึ่งบางยี่ห้อก็มีใบรับประกันถึง 2 ปี และยังรวมถึงรับประกันแบตเตอร์รี่ภายในให้อีกด้วย
วิธีดูแลรักษาและยืดอายุการใช้งาน
อายุการใช้งานของ Power Bank จะแตกต่างกัน โดยจะมีอายุการใช้งานประมาณ 10 เดือน ถึง 2 ปี เป็นการคำนวณจากการใช้งานวันละ 1 รอบ ดังนั้นถ้าซื้อมาแล้วทุกคนก็คงอยากเก็บไว้ใช้กันนานๆ โดยเฉพาะถ้าใครเลือกซื้อแบบที่มีราคาแพง แต่จะอยู่ได้นานหรือไม่นั้นการดูแลรักษาจัดได้ว่ามีส่วนสำคัญ ซึ่งคุณสามารถดูแลรักษา Power Bank ได้ดังนี้
- ขณะชาร์ตไฟด้วย Power Bank ควรชาร์ตอุปกรณ์จนแบตเตอร์รี่เต็มเสียก่อน จึงค่อยนำอุปกรณ์กลับมาใช้งาน หลายคนมักจะชาร์ตไปด้วยพร้อมกับเล่นไปด้วย ซึ่งการทำในลักษณะนี้จะทำให้ Power Bank เสื่อมเร็วขึ้นกว่าเดิม
- ทุกครั้งที่ใช้ Power Bank ชาร์ตไฟไม่ควรชาร์ตจนไฟหมด แต่ควรเหลือไว้สักประมาณ 30% เพราะทุกครั้งที่ต้องสร้างบรรจุไฟใหม่จะต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Power Bank เสื่อมไวกว่าปกติ
- ควรเก็บ Power Bank ไว้ในที่แห้ง และไม่ควรให้เปียกน้ำหรือของเหลว เพราะจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
- ระวังอย่าทำตก เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในค่อนข้างบอบบาง การตกจากที่สูงจะทำให้ชิ้นส่วนแตกหรือชำรุดเสียหายได้
- อย่าวาง Power Bank ใกล้กับอุปกรณ์ที่มีความร้อน เช่น ไมโครเวฟ เตาไฟ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ปล่อยความร้อนออกจากตัว เพราะจะทำให้อุปกรณ์ภายใน Power Bank เสื่อมไวกว่าปกติได้
- Power Bank บางยี่ห้อจะไม่มีระบบระบายความร้อนในตัว จึงไม่ควรใช้เป็นระยะเวลานาน ถ้ารู้สึกว่าตัวเครื่องเริ่มจะร้อนควรหยุดพักการใช้เป็นระยะ ก็จะสามารถยืดอายุการใช้งาน Power Bank ได้มากขึ้น
ปัจจุบันมีผู้ผลิต Power Bank ออกมาจำหน่ายกันอย่างมากมายหลากหลายยี่ห้อและหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้นถ้าอยากได้ Power Bank ที่มีคุณภาพดีและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเราจึงควรพิถีพิถันในการเลือกซื้อ อย่ามองแค่ความสวยหรือราคาถูกเพียงเท่านั้น แต่ควรดูไปถึงมาตรฐานการผลิตและความน่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้นานและปลอดภัยในขณะกำลังใช้