การจำแนกสายพันธุ์สุนัข มีอะไรบ้างมีคำตอบ
การจำแนกสายพันธุ์สุนัขอาจแบ่งตามลักษณะรูปร่างและรูปทรงภายนอก โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักนิสัยหรือวัตถุประสงค์การใช้งาน ซึ่งจำแนกพันธุ์สุนัขโดยพิจารณาจากขนาดรูปร่างของสุนัข ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่นั้น เป็นสิ่งแรกในการจำเเนกเเยกเเยะเเต่ละสายพันธุ์ออกจากกัน แล้วจึงพิจารณาเรื่องรูปทรงของหัวว่ามีลักษณะเช่นไร ทั้งกลม ยาว หรือสี่เหลี่ยม พร้อมกับลักษณะของใบหู ที่มีทั้งยาว ตั้ง หรือสั้น และสุดท้ายคือ ลักษณะของขน ว่ามีขนสั้น ขนยาว หรือขนลวด ซึ่งจากวิธีการ ดังกล่าว สุนัขพันธุ์ต่างๆ ก็จะได้รับการจำแนกกลุ่มจากขนาดรูปร่างและลักษณะภายนอกต่างๆ เช่น รูปร่างเล็ก หัวกลม ใบหูยาว และมีขนสั้น เป็นโดยสุนัขบางสายพันธุ์อาจปรากฏในกลุ่มมากกว่าหนึ่งกลุ่มก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีลักษณะตรงกับการจำเเนกหลายๆ ประเภท
เราจะมาดูกันที่อย่างเเรกคือการจำเเนกด้วยขนาดรูปร่าง ซึ่งมันคือลักษณะที่สำคัญที่สุดในการจำแนกพันธุ์สุนัข แบ่งออกเป็นกลุ่มที่มีขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ โดยวัดจากจุดสูงสุดบนแผ่นหลังซึ่งตรงกับไหล่สุนัขความสูงของสุนัขเป็นเกณฑ์หนึ่งที่ใช้ตัดสินในการประกวดสุนัข โดยความแตกต่างของขนาดรูปร่างมีรายละเอียดคือ หากเป็นสุนัขขนาดใหญ่ จะมีความสูงเกิน 61 ซม. ส่วนสุนัขขนาดกลาง จะมีความสูง ระหว่าง 46-61 ซม. ส่วนขนาดเล็ก จะมีความสูงน้อยกว่า 46 ซม.
มาดูกันที่รูปทรงของหัวนั้นอาจแบ่งลักษณะรูปทรงของหัวเป็นได้ 3 แบบด้วยกัน คือ หัวรูปทรงกลม ยาว และสี่เหลี่ยม สุนัขที่มีหัวรูปทรงกลมมักจะมีจมูกสั้น สุนัขที่มีหัวรูปทรงยาวมักจะมีจมูกยาวกว่าและมีปลายจมูกค่อนข้างแหลม สุนัขที่มีหัวรูปทรงสี่เหลี่ยมมักจะมีขากรรไกรที่ค่อนข้างสั้นและแข็งแรง โดยรูปทรงของหัวสามารถบ่งบอกต้นกำเนิดของพันธุ์สุนัขได้ สุนัขล่าเนื้อ เช่น พันธุ์เกรย์ฮาวนด์ จะมีช่วงปากยาว ส่วนสุนัขพันธุ์ที่ใช้ในการพนันกัดสุนัข จะมีรูปทรงของหัวสั้นกว่า แต่ใหญ่และแข็งแรง เป็นต้น
ส่วนทางด้านของรูปร่างและความยาวของใบหูของสุนัขนั้นจะแตกต่างกันค่อนข้างมาก
โดยสุนัขที่มีใบหูตั้งขึ้นสามารถรับฟังเสียงได้มีประสิทธิภาพที่สุด แต่สุนัขที่ใช้ล่าสัตว์ซึ่งจะใช้จมูกเป็นหลักในการดมกลิ่น มักจะมีใบหูปรกลงมาปิดรูหูเพื่อช่วยป้องกันเนื้อเยื่อภายในรูหูขณะที่สุนัขเสาะหาเหยื่อเข้าไปตามพุ่มไม้ต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมิให้เมล็ดพืชหรือหนามตกเข้าไปในรูหูอีกด้วย ใบหูที่เล็กและสั้นช่วยทำให้มุดดินได้ง่าย ซึ่งเป็นลักษณะที่พึงประสงค์ของสุนัขพันธุ์เทอร์เรียร์ ส่วนการตัดแต่งใบหูนั้น ถือว่ารูปร่างของใบหูสามารถตัดแต่งเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งยังคงมีความนิยมอยู่ในบางประเทศ การจำแนกพันธุ์ในหนังสือเล่มนี้ ใช้ลักษณะรูปร่างและตำแหน่งของใบหูตามธรรมชาติ
ลักษณะที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ใช้ในการจำแนกสุนัขก็คือลักษณะขน
โดยทั่วไปอาจจำแนกตามความยาวออกได้เป็นขนสั้น และขนยาว และอีกหนึ่งลักษณะที่แยกออกมาอย่างเด่นชัดจากการสัมผัสคือ ลักษณะที่ขนแข็งคล้ายเส้นลวด สุนัขบางพันธุ์ เช่น ดัชชุนด์ มีการพัฒนาจนมีขนทั้ง 3 แบบ ในขณะที่สุนัขบางพันธุ์อาจมีทั้งพันธุ์ขนสั้น หรือขนยาว แต่โดยทั่วไปลักษณะขนชนิดใดชนิดหนึ่งมักจะเป็นที่นิยมมากกว่า โดยสำหรับขนสั้นนั้น ดูเรียบ เป็นมันเงาแนบติดกับผิวหนัง ส่วนขนยาว มักจะมีขนชั้นในหนาแน่น เพื่อป้องกันอากาศหนาว ทางด้านของขนลวด เส้นขนหยาบและหนามักพบในสุนัขที่ต้องทำงานตามพุ่มไม้
นอกจากนี้เเล้วหางสุนัขก็มีความแตกต่างกันทั้งความยาวละรูปร่าง สุนัขบางพันธุ์อาจนิยมการตัดหาง แต่การแยกแยะลักษณะของหางออกเป็นชนิดต่างๆ นั้นไม่มีความสำคัญในการจำแนกเเต่อย่างใด แต่ในส่วนของหางนั้นจะเป็นมาตรฐานสำหรับสุนัขบางพันธุ์ที่ต้องมีการตัดกันตั้งแต่ยังเด็กนั่นเอง โดยสำหรับสุนัขที่ค่อนข้างซีเรียสในเรื่องของการตัดหางนั้นก็จะมีทั้ง พันธุ์บ๊อกเซอร์ หรือจะเป็นอีกพันธุ์อย่างร็อตไวเลอร์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีความสำคัญในการประกวดสุนัข ส่วนการใช้ชีวิตปกติประจำวันของพวกมันแล้วจะตัดหรือไม่ตัดนั้นแถบไม่มีผลแต่อย่างใด