วิธีการเลือกใช้ที่กดสิว แบบง่ายๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
สิวบนใบหน้า นับเป็นความรำคาญใจอย่างยิ่ง และส่วนใหญ่สาวๆ ที่เป็นสิวมักจะอดไม่ได้ที่จะบีบ จะเค้นเพื่อให้หัวสิวหลุดออกมา ซึ่งบางครั้ง มือที่ไม่สะอาด อาจเป็นเหตุให้เกิดอักเสบมากขึ้น การเลือกใช้เครื่องมือที่ผลิตออกมาเพื่อกดสิวโดยเฉพาะจึงเป็นสิ่งที่ดี และปลอดภัยกว่า แต่ก็ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับประเภทของสิว
แนวทางในการเลือกที่กดสิว
- เลือกวัสดุที่ใช้ทำที่กดสิว ที่กดสิวที่ทำด้วยสแตนเลสจะมีคุณภาพดี ไม่เป็นสนิม
- เลือกที่ไม่บางเกินไปเพราะอาจมีความคมของอุปกรณ์ ที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหน้า
- เลือกรูปทรงที่ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป และมีขนาดเหมาะมือ มีน้ำหนักพอเหมาะ ไม่ต้องออกแรงกดเสียจนมีส่วนทำให้เกิดร่องรอยหลังจากใช้งาน
- เลือกลักษณะที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพราะหลังจากใช้ทุกครั้งควรเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ทุกซอกทุกมุม
รูปแบบของที่กดสิว
- แบบห่วงกลม ห่วงรียาว
- แบบคอดกลาง
- แบบเหลี่ยมหัวตรง ไม่คอดกลาง
- แบบทรงถ้วย
- แบบปลายแหลม
จะเลือกรูปแบบไหน ควรคำนึงถึงขนาดของสิว และการออกแรงในการกด รูปแบบที่เลือกไม่ควรทำให้เกิดร่องรอยขนาดใหญ่เกินไป และไม่ควรเล็กกว่าขนาดสิว หรือแบบปลายแหลมที่จำเป็นต้องระมัดระวังการเป็นบาดแผลมากกว่าแบบอื่น นอกจากนั้น ในปัจจุบันยังมีที่กดสิวที่ใช้ไฟฟ้า ราคาอาจจะสูงกว่า แต่ก็ทำให้ผิวหน้าช้ำน้อยกว่าที่กดสิวที่ใช้กำลังแรงของคน
ไม่ใช่สิวทุกประเภทที่จะใช้ที่กดสิวได้
ก่อนจะใช้ที่กดสิว ต้องศึกษาก่อนว่า สิวที่คุณเป็นอยู่เหมาะกับการกดสิวหรือไม่ เพราะหากกดทั้งที่ไม่ควร จะทำให้ได้รับความเจ็บปวดโดยใช่เหตุ
สิวที่สามารถใช้ที่กดสิวได้
- สิวหัวดำ ต้องมีศิลปะในการกด
- สิวอักเสบที่มีหัวหนอง
- สิวหัวขาวเปิด
สิวที่มีความเสี่ยงในการกดสิว
สามารถกดได้ด้วยความระวัง
- สิวหัวขาวปิด
- สิวหัวช้าง สิวอักเสบหัวใหญ่ๆ และเจ็บ ไม่ควรเสี่ยงกดเอง พบแพทย์ผู้ชำนาญทำให้จะดีกว่า
สิวที่ห้ามใช้ที่กดสิว
- สิวอักเสบหัวแดง สิวประเภทนี้อักเสบ แต่ยังไม่เห็นหัวสิวโผล่ขึ้นมา ประเภทนี้ไม่ควรกดสิว เพราะยิ่งทำยิ่งอักเสบ
- สิวไม่มีหัว สิวประเภทนี้ หัวสิวจะอยู่ลึก เห็นอยู่ว่าบวมๆ แต่ไม่อักเสบ แบบนี้กดไปก็เจ็บเปล่าๆ
อนึ่ง ไม่ว่าจะใช้ที่กดสิวแบบไหน ก็พึงใช้อย่างระมัดระวัง และการกดสิวเองต้องมีการฝึกให้มีประสบการณ์