6 เทคนิควิธีการกำจัดปลวกเบื้องต้น ทำง่ายๆด้วยตัวเอง
จุดสังเกตที่ทำให้รู้ว่ามีปลวกอยู่ในบ้าน
ท่อกำบังโคลน : เป็นสิ่งปลวกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเส้นทางเดินทางจากรังไปจนถึงไม้หรือรากฐานคอนกรีตพื้นผิวด้านนอกบ้าน และช่วยปกป้องตัวเองจากแสงแดด โดยสร้างจากอนุภาคเล็กของดินและไม้ที่ย่อยสลายแล้ว
แมลงเม่า : ถือเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันการมีปลวกอยู่ในข้านได้อย่างดี โดยแมลงเม่าเป็นปลวกมีปีกที่โตเต็มวัย สามารถพบเห็นได้ในช่วงที่มีความชื้นสูง ถ้าพบปีกของแมลงเม่าหลุดร่วงตามฐานหน้าต่าง พื้น ฯลฯ แสดงว่ามีรังปลวกอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
สภาพไม้ : ถ้าเห็นซากไม้เป็นผงเกลี่ยนพื้นแสดงว่าไม้ดังกล่าวได้ถูกปลวกกินแล้ว ซึ่งถ้าอยากตรวจเช็คให้มั่นใจว่ามีปลวกจริงหรือไม่ ให้เคาะไม้หากได้ยินเสียงก้องหรือรู้สึกถึงความโหรงเหรงภายในไม้แสดงว่าปลวกได้เข้าไปกัดกินไม้ข้างในจนหมดแล้ว หรือเพิ่มความมั่นใจด้วยการใช้สว่านเจาะเข้าไปตรงบริเวณที่เป็นรู หากเศษไม้หลุดออกมาเป็นแผ่นอย่างง่ายดาย แสดงว่ามีปลวกอยู่แน่นอน
1.วิธีกำจัดปลวกด้วยสมุนไพรใบสัก
ปลวกจัดเป็นปัญหาที่กวนใจเจ้าของบ้าน แต่ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่เราสามารถป้องกันหรือหาวิธีกำจัดปลวกไม่ให้มารบกวนภายในบ้านของเราได้ สำหรับวิธีที่จะนำมาแนะนำกันในวันนี้จะเป็นวิธีการใช้สมุนไพรใบสักในการช่วยกำจัดปลวก สำหรับใบสักที่ว่านี้ก็คือใบของต้นสักซึ่งไม้สักจะเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและเป็นไม้ที่ปลวกไม่แทะหรือกัดกิน เพราะในไม้สักมีสารชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า สารเทคโตควิโนน สารตัวนี้จะมีฤทธิ์ที่สามารถกำจัดปลวกได้ ทำให้บ้านเรือนไทยในสมัยก่อนนิยมนำไม้สักมาใช้ในการก่อสร้าง แต่ปัจจุบันไม้สักมีราคาแพงทำให้หลายคนหันมาใช้ไม้ชนิดอื่นในการก่อสร้างบ้านเรือน รวมไปถึงใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน จึงได้มีการทดลองนำใบสักมาใช้ในการกำจัดปลวกซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะในใบสักก็มีสารเทคโตควิโนน อยู่ด้วยเช่นกัน สำหรับวิธีในการทำนั้นจะได้แก่
ขั้นตอนในการใช้ใบสักกำจัดปลวก
นำใบสักจะใช้แบบใบสดหรือใบแห้งก็ได้ มาบดให้ละเอียดประมาณ 3 กรัม ผสมกับน้ำเปล่าจำนวน 1 ลิตร จากนั้นเอาไปฉีดพ่นในบริเวณรังปลวก หรือบริเวณรอบบ้านที่เราไม่ต้องการป้องกันไม่ให้ปลวกมารบกวน สำหรับสูตรนี้จะสามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการโดยในช่วงแรกอาจจะทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จากนั้นก็ค่อยเปลี่ยนเป็นเดือนละครั้งแบบนี้เป็นต้น
สำหรับวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยากและใบสักก็สามารถไปเก็บมาได้โดยไม่ต้องซื้อหา ปัจจุบันในบ้านเราก็ยังมีหลายที่ที่มีการปลูกต้นสัก ดังนั้นสำหรับบ้านไหนที่ต้องการกำจัดหรือป้องกันปลวกวิธีการกำจัดปลวกด้วยใบสักจัดได้ว่าเป็นวิธีที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2.พิชิตปลวกร้ายด้วย “ใบขี้เหล็ก”
แม้ปัจจุบันจะมีการคิดค้นวิธีการป้องกันและกำจัดปลวกออกมามายมายหลายวิธี แต่ก็ยังไม่พ้นถูกปลวกเข้าทำร้ายและทำลายบ้านที่เรารักได้ตลอด การปล่อยปลวกทิ้งไว้โดยไม่จัดการทำอะไร คือความหายนะครั้งยิ่งใหญ่ เพราะปลวกจะเข้ากัดกินบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย สิ่งก่อสร้าง วัสดุต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ทำด้วยไม้และกระดาษ ทำให้เกิดความเสียหาย ผุพัง สร้างความเป็นทุกข์ให้กับผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านทุก ๆ คน
ใบขี้เหล็กช่วยกำจัดปลวก
การกำจัดปลวกมีวิธีการและรูปแบบที่หลากหลาย แต่เราอาจไม่เคยรู้ว่าผักที่เราปลูกริมรั้วรอบบ้านอย่าง “ใบขี้เหล็ก” ก็สามารถช่วยเรากำจัดปลวกได้และทำให้ปลวกค่อย ๆ หายไปจากบ้านของเรา
คุณสมบัติของใบขี้เหล็กต่อปลวก
ใบขี้เหล็กมีสารเคมีออกฤทธิ์ช้า ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม แต่มีประสิทธิภาพสูงในการขัดขวางการดำรงชีวิตตามธรรมชาติของปลวก รวมทั้งมีคุณสมบัติพิเศษในการดึงดูดให้ปลวกเข้ามากิน ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากปลวกตัวหนึ่งไปสู่ปลวกตัวอื่น ๆได้
ขั้นตอนและวิธีการกำจัดปลวกด้วยใบขี้เหล็ก
นำใบขี้เหล็กมาบดและผสมกับน้ำให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม จากนั้นนำไปฉีดพ่นหรือเทลาดบริเวณที่พบปลวกหรือรังปลวก ทำซ้ำประมาณ 3 – 5 วัน ต่อครั้งจนไม่พบตัวปลวก
แม้การกำจัดปลวกจะมีวิธีการมากมาย แต่การกำจัดปลวกด้วยใบขี้เหล็กเป็นวิธีการที่ประหยัดปลอดภัยที่สุด และไม่เป็นอันตรายทั้งต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องหาซื้อเพราะใบขี้เหล็กมีขึ้นอยู่ทั่วไป หาง่ายและยังกำจัดปลวกได้ผลดีอีกด้วย…
3.ฆ่าปลวกตายยกรังด้วย “เชื้อราเขียว”
“ปลวก” เป็นศัตรูร้ายกับบ้านทุกหลังมาเป็นเวลาช้านาน แม้ปลวกจะเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในดิน แต่ปลวกมีพลานุภาพในการทำลายล้างสูงมาก หากเราทิ้งไว้โดยไม่จัดการใด ๆ ปลวกจะกัดกินและแทะบ้านของคุณ จนวันหนึ่งคุณอาจพบว่าบ้านของคุณกำลังจะพัง เพราะถูกปลวกแทะจนหมดแล้ว
การกำจัดปลวกด้วยเชื้อราเขียว
การกำจัดปลวกด้วยเชื้อราเขียว เป็นการกำจัดปลวกรูปแบบหนึ่งที่มีความปลอดภัยต่อผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านต่างจากการกำจัดด้วยสารเคมี เพราะอาจสูดดมสารเคมีเหล่านั้นและมีผลกระทบต่อร่างกายได้
รู้จักเชื้อราเขียว
เชื้อราเขียวหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เชื้อราเมตาไรเซียม เป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็ก พบในดิน ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า เชื้อราเขียวสามารถทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ในแมลงได้หลายชนิด เช่นเพลี้ย ตั๊กแตน หนอนด้วย รวมทั้งปลวกด้วย
วิธีการใช้เชื้อราเขียวกำจัดปลวก
การใช้เชื้อราเขียวกำจัดปลวกมีวิธีการคือ
วิธีที่ 1 นำเชื้อราเขียวผสมน้ำให้ได้ตามสัดส่วน เช่น เชื้อราเขียว 30 กรัมต่อน้ำ 10 – 15 ลิตร เทลาดบริเวณที่พบรังปลวกหรือโคนเสาบ้าน
วิธีที่ 2 นำเชื้อราเขียวคุกกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก (ห้ามใช้มูลไก่ เพราะมูลไก่อาจทำให้เชื้อราร้อนเกินไป) หมักเชื้อราเขียวกับปุ๋ยทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน จากนั้นขุดหลุมให้ลึกประมาณ 20 – 30 ซม. นำเชื้อราเขียวผสมมูลสัตว์ใส่ลงไปในหลุมแล้วกลบด้วยดิน ทำซ้ำและตรวจสอบจนไม่พบตัวปลวก
คราวนี้บ้านใครที่มีปัญหาปลวกคอยกวนใจ คงได้พบทางออกที่จะกำจัดปลวกให้ออกไปจากบ้านของคุณอย่างสิ้นซากเสียที…
4.กำจัดปลวกอย่างได้ผลด้วยข่า ตะไคร้ กระเทียม
วิธีกำจัดปลวกเพื่อป้องกันและดูแลบ้านที่พักอาศัยของเราให้ห่างไกลปลวกนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารเคมี หรือการใช้สมุนไพรต่างๆ แต่การใช้สารเคมีมักจะทิ้งรอยคราบและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ไว้ในบริเวณที่เราฉีดสารเคมีลงไป และอาจจะมีผลทำให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงไปสัมผัสโดนและเกิดอาการเป็นพิษหรือระคายเคืองตามผิวหนังได้ แต่การใช้สมุนไพรต่างๆ จะเป็นการช่วยป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ได้ และสมุนไพรยังไม่ทิ้งกลิ่นหรือรอยคราบเอาไว้อีกด้วย นอกจากนี้การใช้สมุนไพรยังจัดเป็นวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับสมุนไพรที่ว่านี้จะได้แก่ การใช้ ข่า ตะไคร้ และกระเทียมในการช่วยกำจัดปลวก ซึ่งมีวิธีในการทำดังนี้
ส่วนผสมต่างๆ ที่ต้องเตรียม
1. ข่า ตะไคร้ กระเทียม 2 กิโลกรัม โดยกะปริมาณเฉลี่ยแต่ละอย่างให้เท่าๆ กัน
2. เหล้าขาว 1 ขวด
3. น้ำส้มสายชู 1 ขวด
4. น้ำเปล่า 20 ลิตร
วิธีทำ
นำข่า ตะไคร้ และกระเทียมมาสับให้ละเอียด แล้วนำเหล้าขาว น้ำส้มสายชู และน้ำเปล่ามาผสมในภาชนะพลาสติกที่มีฝ่าปิดสนิท จากนั้นให้ทำการหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วสามารถนำมาฉีดพ่นกำจัดปลวกกันได้เลย
วิธีนี้สามารถนำมาฉีดพ่นกำจัดปลวกได้บ่อยเท่าที่ต้องการหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันปลวกเอาไว้ก่อน นอกจากนี้ส่วนผสมที่หมักไว้สามารถเก็บไว้ได้นาน แต่ถ้าใครมีบริเวณบ้านที่กว้างหรือแคบไปกว่านี้ก็สามารถเลือกสัดส่วนในการทำมากหรือน้อยได้ตามความต้องการ เพียงเท่านี้บ้านคุณก็จะห่างไกลจากปลวกที่จะมารบกวนกันได้แล้ว
5.กำจัดปลวกปลอดภัยด้วยน้ำส้มควันไม้
“ปลวก” เป็นศัตรูตัวร้ายของบ้านทุกหลัง การกำจัดปลวกให้สิ้นซากจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องทำ วิธีการกำจัดปลวกมีมากมายหลายวิธี แต่การกำจัดปลวกด้วยวิธีการไหนที่จะได้ผลดีและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในบ้าน
น้ำส้มควันไม้กำจัดปลวก
รู้จักน้ำส้มควันไม้
น้ำส้มควันไม้เป็นของเหลวที่เกิดจากการควบแน่นและกลั่นตัวเป็นหยดน้ำจากการเผาถ่าน น้ำส้มควันไม้ประกอบไปด้วยกรดอะซิติกซึ่งมีสีน้ำตาลแดง ก่อนการนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ ต้องใส่ภาชนะทิ้งไว้ประมาณ 3 เดือน
ข้อควรระวังการใช้น้ำส้มควันไม้
- ก่อนใช้ควรพักทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- ต้องผสมน้ำให้เกิดความเจือจางก่อนเสมอ เพราะน้ำส้มควันไม้มีความเข้มข้นสูง
- น้ำส้มควันไม้มีความเป็นกรดสูง ระวังอย่าให้เข้าตา
อัตราส่วนของน้ำส้มควันไม้ต่อการกำจัดปลวก
– ผสมน้ำส้มควันไม้ด้วยอัตราส่วนต่อน้ำ 20 เท่า
ขั้นตอนการกำจัดปลวกด้วยน้ำส้มควันไม้
วิธีที่ 1 กรณีพบตัวปลวกหรือรังปลวก
ให้นำน้ำส้มควันไม้ที่เจือจางน้ำแล้วใส่ในกระบอกฉีด ฉีดลงไปบริเวณที่มีปลวกอยู่ หรือหากต้องการกำจัดทั้งรังให้นำน้ำส้มควันไม้เทราดลงไปบริเวณรัง ทำซ้ำโดยทิ้งระยะห่าง 3 วัน จนไม่พบตัวปลวก
วิธีที่ 2 กรณีไม่พบตัวปลวกหรือรังปลวก
ให้นำน้ำส้มควันไม้ที่เจือจางน้ำแล้วเทราดลงไปบริเวณโคนเสาบ้านหรือบริเวณที่บ้านเชื่อมต่อกับดิน ทำซ้ำโดยทิ้งระยะห่าง 3 วัน จนไม่พบตัวปลวก
การใช้น้ำส้มควันไม้กำจัดปลวกเป็นวิธีการที่ง่าย สะดวกและประหยัด นอกจากน้ำส้มควันไม้จะมีประโยชน์ในการกำจัดปลวกแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมากมายถ้าเราได้มีโอกาสศึกษาและนำไปใช้…
6.“ไส้เดือนฝอย” สิ่งมีชีวิตกำจัดปลวก
“ปลวก” เป็นปัญหาที่สร้างความหนักใจให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านทุกคนมาตั้งแต่อดีต แม้แต่ในปัจจุบันปลวกก็ยังคงเป็นปัญหาสำคัญสำหรับทุกบ้านเช่นเดิมโดยเฉพาะบ้านไม้
เมื่อบ้านไหนตรวจพบว่ามีปลวก ต้องรีบกำจัดอย่างเร่งด่วน เพราะปลวกจะกัด กินและแทะสิ่งต่าง ๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านทุกอย่าง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้านจนกลายเป็นปัญหาที่ยากเกินกว่าจะแก้ไข
กำจัดปลวกด้วย “ไส้เดือนฝอย”
การกำจัดปลวกมีหลายวิธีและหลายรูปแบบ แต่การกำจัดปลวกวิธีหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้และไม่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยในบ้าน คือ การกำจัดปลวกด้วยไส้เดือนฝอย
รู้จักไส้เดือนฝอย
ไส้เดือนฝอย เป็นสายพันธุ์ที่คนไทยสามารถแยกได้อยู่ในสกุล Steinernema มีคุณสมบัติต้านทานความร้อนสูงถึง 35 องศาเซลเซียส มีศักยภาพสูงในการกำจัดและทำลายปลวก มีความปลอดภัยต่อมนุษย์ สัตว์ พืชและสิ่งแวดล้อมทุกชนิด รวมทั้งราคาถูกและเพาะเลี้ยงเองได้ง่าย
ขั้นตอนการกำจัดปลวกด้วยไส้เดือนฝอย
วิธีที่ 1 กรณีพบตัวปลวกหรือรังปลวก
ให้นำไส้เดือนฝอยใส่ในกระบอกฉีด ฉีดลงไปบริเวณที่มีปลวกอยู่ หรือหากต้องการกำจัดทั้งรังให้นำไส้เดือนเทราดลงไปบริเวณรัง ทำซ้ำโดยทิ้งระยะห่าง 3-5 วัน จนไม่พบตัวปลวก
วิธีที่ 2 กรณีไม่พบตัวปลวกหรือรังปลวก
ให้ขุดหลุมขนาดกว้าง 30 – 40 เซนติเมตร ความลึกอยู่ที่ 20 – 30 เซนติเมตร นำไส้เดือนฝอยผสมกับอาหารล่อปลวก อย่างเช่น เศษกระดาษ ไม้ขี้เลื่อย หรือไม้ขี้เลื่อยยางพารา นำไปโรยไว้ในหลุมที่ขุดไว้ ปิดปากหลุม ตรวจทุก 3 – 5 วัน และโรยไส้เดือนฝอยซ้ำ จนไม่พบตัวปลวก
เพียงเท่านี้ปลวกที่เคยกวนใจและคอยทำลายบ้านเราก็ถูกกำจัดอย่างสิ้นซาก เราสามารถใช้ไส้เดือนฝอยได้มากเท่าที่ต้องการ เพราะไส้เดือนฝอยไม่เป็นอันตรายและไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกายของเรา…