10 เทคนิคเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ ได้ถูกต้องแบบง่ายๆ พร้อมวิธีดูแลรักษาเบื้องต้น

3176

10 เทคนิคเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ ได้ถูกต้องแบบง่ายๆ พร้อมวิธีดูแลรักษาเบื้องต้น


1.วิธีการเลือก
เครื่องกรองน้ำ

การเลือกเครื่องกรองน้ำสักเครื่องเพื่อนำมาใช้งาน คงต้องเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องกรองจากน้ำประปา หรือบางแห่งเป็นน้ำบ่อ แล้วต้องนำมาดื่ม บางบ้านนำมาสำหรับชงนมให้กับทารกเลยทีเดียว ดังนั้น จึงต้องพิจารณากันค่อนข้างมาก ดังนั้นเพื่อช่วยลดความกังวล และเป็นแนวทางในการเลือกเครื่องกรองน้ำ ควรต้องพิจารณาดังต่อไปนี้

1.สภาพน้ำดิบที่เราจะนำมากรอง

น้ำดิบ คือ น้ำที่จะนำมาผ่านเครื่องกรอง น้ำในกรุงเทพฯ ร้อยละ 90 เป็นน้ำประปา และน้ำในต่างจังหวัด บางแห่งเป็นน้ำประปา ประปาหมู่บ้าน น้ำบาดาล น้ำบ่อ เป็นต้น

– น้ำประปาในกรุงเทพฯ สามารถใช้เครื่องกรองน้ำได้แทบทุกรุ่น เพราะน้ำประปาได้รับการกรองมาชั้นหนึ่งแล้ว โดยการประปาได้แจ้งไว้ว่าสามารถดื่มได้ แต่ที่ยังเป็นปัญหาคือ กลิ่นของคลอรีน และท่อส่งที่อาจจะไม่สะอาดเพียงพอ  เครื่องกรองน้ำที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้เรียงจากดีที่สุด คือ เครื่องกรองน้ำระบบ RO, เครื่องกรองน้ำระบบ Nano, เครื่องกรองน้ำระบบ UF, เครื่องกรองน้ำระบบ Micro

ระบบกรองสำหรับน้ำประปาที่แนะนำ คือ ระบบ Ultrafiltration (UF)  ใช้กรองแบคทีเรียได้อย่างสมบูรณ์ และยังคงรักษาแร่ธาตุต่างๆไว้ ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า เพราะไม่ใช้ปั๊มเพื่อเพิ่มแรงดันน้ำ ไม่ต้องใช้ถังเก็บน้ำ และไม่เกิดของเสียจากระบบการกรอง ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ได้ถูกใช้งานในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยาและโรงพยาบาล

– ถ้าเป็นน้ำในต่างจังหวัด ต้องมีการตรวจทดสอบความสะอาดของน้ำดิบก่อน เพื่อดูว่ามีความสะอาดอยู่ในระดับไหน หากไม่สกปรกมาก ก็สามารถใช้ไส้กรองเซรามิคในเครื่องกรองน้ำช่วยได้ แต่เพื่อความปลอดภัยในการดื่ม ควรใช้เครื่องกรองน้ำระบบ RO

ระบบกรองน้ำ Reverse Osmosis (RO) จำเป็นต้องใช้แทงก์เก็บน้ำ เป็นสาเหตุให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ สิ้นเปลืองน้ำเนื่องจากไส้กรองขนาดเล็ก เกิดการสูญเสียแรงดันน้ำ และต้องใช้ปั๊มช่วยในการทำงาน สูญเสียแร่ธาตุภายหลังการกรองที่ควรมีในน้ำดื่ม ใช้ไฟฟ้า และมีค่าบำรุงรักษาสูง

ระบบ Ultraviolet (UV) สามารถฆ่าเชื้อได้ แต่กำจัดแบคทีเรียไม่ได้ แบคทีเรียจึงมีโอกาสเจริญเติบโตในน้ำได้ ไม่แนะนำสำหรับใช้กรองน้ำในบ้าน

  1. งบประมาณที่เรามี

โดยความเป็นจริงน่าจะเป็นเหตุผลหลักในการซื้อเครื่องกรองน้ำเลยก็ว่าได้ เพราะเครื่องกรองน้ำมีหลายราคาตั้งแต่ถูกสุดหลักร้อย ไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว ซื้ออย่างไรเราจะไม่เกิดปัญหาทางการเงินในภายหลัง

– หากมีงบประมาณไม่เกิน 1,500บาท สามารถซื้อเครื่องกรองน้ำ 2-3ขั้นตอน  หรือ เครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน สามารถกรองได้สูงสุด 5ไมครอน

– หากมีงบประมาณ 1,500-3,000บาท สามารถซื้อเครื่องกรองน้ำไส้เซรามิค หรือ เครื่องกรองน้ำระบบ UF สามารถกรองได้สูงสุด 0.3-0.01ไมครอน

– หากมีงบประมาณ 3,000บาท ขี้นไป สามารถซื้อเครื่องกรองน้ำได้ตั้งแต่ เครื่องกรองน้ำระบบ  Nano และ เครื่องกรองน้ำระบบ RO สามารถกรองได้สูงสุด 0.0001ไมครอน

  1. ความต้องการของเรา

เครื่องกรองน้ำปัจจุบันได้ถูกปรับให้มีความสามารถเพิ่มขึ้น โดยมีระบบการทำน้ำเย็น น้ำธรรมดา และน้ำร้อน รวมอยู่ในเครื่องเดียวกัน เพื่อความสะดวกและประหยัดพื้นที่ของผู้บริโภค ซึ่งก็ทำให้ราคาสูงตามไปด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องกรองน้ำ เราควรถามตัวเองก่อนว่า เราอยากได้เครื่องกรองน้ำที่มีความสามารถแบบไหน

  1. ความเหมาะสมของตำแหน่งที่จะติดตั้ง

ในการติดตั้งเครื่องกรองน้ำต้องคำนึงว่า จุดที่จะติดตั้งมีน้ำเข้าถึงได้ง่ายหรือไม่ จะต้องเดินท่อใหม่เพื่อเครื่องกรองน้ำโดยเฉพาะเลยไหม จะตั้งดีหรือจะแขวนดี สะดวกในการเสียบปลั๊กไฟไหม และที่สำคัญมีที่ทิ้งน้ำไหม สำหรับระบบ RO ซึ่งล้วนแต่สำคัญทั้งสิ้น โดยส่วนมากผู้คนจะติดตั้งไว้ที่ ในครัว ใต้ซิงค์ล้างจาน หน้าห้องน้ำ ลานซักผ้า นอกบ้าน ในบ้าน เป็นต้น

  1. ข้อมูลเฉพาะของเครื่องกรองน้ำแต่ละรุ่น

เครื่องกรองน้ำที่เราสนใจแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ มีข้อมูลเฉพาะ หรือข้อจำกัดอะไรที่เราต้องทราบบ้าง เช่น ระบบ RO จะมีน้ำทิ้ง บางรุ่นต้องใช้ไฟฟ้า บางรุ่นผลิตน้ำช้า บางรุ่นต้องล้างไส้กรอง บางรุ่นไม่ต้องล้างไส้กรอง บางยี่ห้อไส้กรองแพงกว่าตัวเครื่อง  เป็นต้น

ความปลอดภัยน้ำสะอาด 3 ขั้นตอนมาตรฐาน

ขั้นตอนที่ 1 Sediment ดักจับกรวด ทราย หิน โคลน และสารแขวนลอยขนาดใหญ่ ที่ปนเปื้อนมากับน้ำ เช่น เศษสนิม และผงฝุ่นจากท่อน้ำ เพื่อเตรียมน้ำสะอาดก่อนเข้าระบบกรองในขั้นตอนต่อไป ช่วยยืดอายุการใช้งานของไส้กรองอื่นๆ

ขั้นที่ 2 Activated Carbon Block ดักจับสารเคมี คลอรีน กลิ่น สี สารอินทรีย์ โดยวิธีการดูดซึมดูดซับ และกรองโลหะหนักต่างๆ

ขั้นตอนที่ 3 Ultrafiltration  กรองแบคทีเรียถึง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยการใช้ Membrane Hollow Fiber ขนาดรูเล็กกว่าแบคทีเรีย เล็กที่สุด 0.03 ไมครอน แร่ธาตุที่เป็นประโยชน์สามารถผ่านได้ ได้ถูกเริ่มใช้ครั้งแรกในโรงพยาบาลสำหรับกรองเลือด

2.แนะนำเทคนิคเลือกเครื่องกรองน้ำ อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำสักเครื่องในทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าจะมีเครื่องกรองน้ำให้เลือกมากมายหลายประเภท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกประเภทจะมีคุณภาพที่ดีและประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเสมอไป ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้เทคนิคในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ เพื่อให้เราได้เครื่องกรองน้ำที่เหมาะสมมากที่สุดต่อรูปแบบในการใช้งาน

สำหรับเทคนิคที่ใช้ในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำนั้นมีวิธีการง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ และต่อไปนี้คือเทคนิคการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ

  • ขนาดของตัวเครื่อง ต้องเลือกที่เหมาะสมมากที่สุดกับการใช้งาน ไม่ควรเล็กหรือ

ใหญ่จนเกินไป เพราะหากมีสมาชิกในครอบครัวไม่มาก แต่เลือกใช้เครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ จะสิ้นเปลืองทั้งน้ำและไฟ

  • ตรวจสอบสภาพของน้ำก่อนการซื้อเครื่องกรองน้ำ ปัจจัยนี้สำคัญมาก เพราะช่วยให้

เราสามารถตัดสินใจเลือกเครื่องกรองน้ำได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

  • ราคา ควรมีความเหมาะสม เพราะเครื่องกรองน้ำในทุกวันนี้มีราคาไม่แพงมากนัก แต่

มีคุณภาพดี อาจตรวจสอบราคาก่อนการซื้อจะช่วยให้เราสามารถเลือกซื้อจากแหล่งที่สุดที่สุดได้

  • รูปทรง ก็ไม่ควรมองข้าม ควรเลือกเครื่องกรองน้ำที่มีขนาดและรูปทรงสวยงาม

สามารถติดตั้งได้อย่างเหมาะสมในบริเวณที่เราเตรียมไว้

  • ปริการหลังจากการขายที่ดีควรมีการให้บริการเปลี่ยนไส้กรอง มีไส้กรองขายและ

พร้อมให้คำแนะนำตลอดเวลา

เหล่านี้คือเทคนิคดี ๆ ในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำสักเครื่องที่เหมาะสมมากที่สุดกับทุกรูปแบบในการใช้งานของทุกคน ช่วยให้ทุกคนได้เครื่องกรองน้ำที่ดีและมีประสิทธิภาพตามที่ใจต้องการ…

3.ซื้อน้ำกินกับซื้อเครื่องกรองน้ำมาใช้งานแบบไหนประหยัดกว่ากัน

การดื่มน้ำในทุกวันนี้ คงมีน้อยคนแล้วที่จะยังคงดื่มน้ำประปาทั่วไป ด้วยความไม่สะอาดของน้ำดื่มที่อาจมีสิ่งสกปรกและสารปนเปื้อนต่าง ๆ ปะปนมากับน้ำ ทำให้ทุกคนเลือกที่จะซื้อน้ำดื่มหรือไม่ก็ซื้อเครื่องกรองน้ำมาใช้งานที่บ้านแทน เพื่อให้ได้ดื่มน้ำกรองที่สะอาดและปลอดภัย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลายคนสงสัยว่า แล้วระหว่างการซื้อน้ำดื่มกับการซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหนประหยัดมากกว่ากัน

ในส่วนของความประหยัดนั้น ต้องขออธิบายก่อนว่า ถ้าเราเลือกที่จะซื้อน้ำดื่มทุกวัน ใน 1 เดือนและ 1 ปี เราจะเสียค่าน้ำเท่าไหร่ และถ้าเราเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ เราจะเสียค่าใช้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนและต่อปีทั้งหมดเท่าไหร่ ซึ่งต่อไปนี้คือวิธีการคิดคำนวณ

  1. การซื้อน้ำดื่ม โดยเฉลี่ยแล่วจะเสียค่าน้ำเดือนละประมาณ 300 บาท ดังนั้น 1 ปี จึงต้องเสียค่าน้ำดื่มประมาณ 3,600 บาท
  2. การซื้อเครื่องกรองน้ำ สำหรับเครื่องกรองน้ำระบบ RO ที่มีประสิทธิภาพสูงมากในการกรองและทำให้น้ำสะอาด ราคาเครื่องขั้นต่ำจะอยู่ที่ 2,700 บาท เท่านั้น เมื่อคิดรวมค่าน้ำทั้งหมด รวมทั้งน้ำทิ้งแล้วเราจะใช้น้ำรวมทั้งหมด 200 ลิตรต่อเดือนหรือ 2,400 ลิตรต่อปีอยู่ที่ 30 บาทเท่านั้น ส่วนค่าใช่จ่ายอื่น ๆ อย่างเช่นค่าไฟอยู่ที่ปีละไม่เกิน 240 บาท ค่าให้เนมเบรน 2 ปีครั้งราคา 480 บาท รวมทั้งหมด 2,700 + 30 + 240 + 480 = 3,400 บาท

ดังนั้นโดยเฉลี่ยแล้วต้องถือว่าการซื้อเครื่องกรองน้ำถูกกว่าการซื้อน้ำดื่มอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นใครที่ได้รู้อย่างนี้แล้วคงตัดสินใจซื้อเครื่องกรองน้ำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น…

4.แนะนำวิธีการทดสอบเครื่องกรองน้ำ ว่าผลิตน้ำที่มีคุณภาพและสะอาด

อีกหนึ่งปัญหาสำคัญสำหรับการใช้งานเครื่องกรองน้ำ คือหลายคนยังไม่มั่นใจว่าเครื่องกรองน้ำที่เราจะซื้อมีความสามารถในการกรองน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ อยากทำการทดสอบให้แน่ใจก่อนการตัดสินใจซื้อ เพราะเมื่อต้องเสียเงินแล้วก็อยากได้เครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกรองน้ำจริง ๆ

โดยในส่วนของวิธีการทดสอบนั้น เพียงแค่ซื้อน้ำยาทดสอบความกระด้างของน้ำมาทดสอบตามขั้นตอนดังนี้

  1. นำน้ำที่ผ่านเครื่องกรองแล้วประมาณ 200 ซีซี เตรียมไว้
  2. หยดน้ำยาทดสอบความกระด้าง 1 หยด จากนั้นสักเกตสีของน้ำที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าน้ำในแล้วเป็นสีฟ้าอ่อน ๆ ถือว่าผ่าน แต่ถ้าเป็นสีอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ถือว่าน้ำที่เราดื่มไม่สะอาด การกรองไม่มีประสิทธิภาพ

สำหรับขั้นตอนการทดสอบนี้สามารถทดสอบได้กับเครื่องกรองน้ำทุกประเภท เครื่องกรองน้ำที่ผ่านการใช้งานแล้วหรือน้ำดื่มบรรจุขวดทั่วไปก็สามารถทดสอบได้ ดังนั้นหากใครต้องการทราบว่าเครื่องกรองน้ำที่จะซื้อหรือที่มีอยู่แล้วสามารถผลิตน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ก็เพียงแค่ทำตามขั้นตอนและวิธีการที่เรานำมาฝากนี้ คุณก็จะได้รู้แล้วว่าน้ำที่คุณกำลังดื่มอยู่สะอาดจริงหรือคุณโดนหลอก ซึ่งน้ำยาทดสอบความกระด้างของน้ำก็หาซื้อได้ไม่ยากและมีราคาไม่แพง เท่านี้คุณก็จะมั่นใจได้มากขึ้นว่าเครื่องกรองน้ำที่เลือกมีคุณภาพดีจริง และอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องกรองน้ำที่มีราคาแพงที่สุดอีกด้วย…

5.อายุการใช้งานของไส้กรอง ใช้นานเท่าไหร่ถึงจะเปลี่ยนได้

โดยปกติแล้ว การทำงานของเครื่องกรองน้ำนั้น เครื่องกรองน้ำจะมีประสิทธิภาพดีหรือไม่อย่างไร อายุในการใช้งานของไส้กรองถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะไส้กรองแต่ละประเภทมีอายุในการใช้งานที่แตกต่างกัน หากไม่เปลี่ยนไส้กรองตามอายุในการใช้งานแล้วล่ะก็ จะส่งผลให้ไส้กรองไม่สามารถกรองน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม

สำหรับอายุในการใช้งานของไส้กรองแต่ละประเภทนั้นมีอายุในการใช้งานที่ถูกกำหนดไว้แตกต่างกัน และต่อไปนี้คืออายุในการใช้งานของไส้กรองแต่ละประเภทที่ผู้ใช้งานเครื่องกรองน้ำควรรู้

  1. ไส้กรองคาร์บอน มีอายุการใช้งาน 1 ปี
  2. ไส้กรองเซรามิคส์ มีอายุการใช้งาน 1 – 1 ปีครึ่ง
  3. ไส้กรองด้ายพัน มีอายุในการใช้งาน 3 – 6 เดือน
  4. สารกรองคาร์บอน มีอายุในการใช้งาน 1 ปี
  5. ไส้กรองเมมเบรน มีอายุในการใช้งาน 1 – 1 ปีครึ่ง
  6. ไส้กรอง 2 in 1 มีอายุในการใช้งาน 3 – 6 เดือน
  7. ไส้กรองด้ายพัน P5 มีอายุในการใช้งาน 3 – 6 เดือน
  8. สารกรองเรซิ่น มีอายุในการใช้งาน 1 ปี
  9. สารกรองแอนทราไซด์ มีอายุในการใช้งาน 1 ปี
  10. สารกรองแมงกานิส มีอายุในการใช้งาน 1 ปี
  11. ไส้กรองจีบ มีอายุในการใช้งาน 3 – 6 เดือน
  12. โพสคาร์บอน มีอายุในการใช้งาน 2 ปี
  13. ไส้กรองเรซิ่น มีอายุในการใช้งาน 1 ปี

เพราะฉะนั้น หากครบกำหนดเวลาตามที่ระบุนี้แล้ว ควรเปลี่ยนไส้กรองแต่ละประเภททันที เพราะหากพ้นระยะเวลาที่กำหนดนี้ ความสามารถและประสิทธิภาพในการกรองน้ำจะหมดไป ไม่สามารถกรองน้ำได้อย่างสะอาดเช่นเดิม โดยการเปลี่ยนนั้นอาจให้ร้านหรือศูนย์ที่เราซื้อเปลี่ยนให้จะดีที่สุด…

6.หน้าที่ของไส้กรอง เครื่องกรองน้ำ

ไส้กรองสำหรับเครื่องกรองน้ำ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดก็ว่าได้ ด้วยไส้กรองนั้นเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการกรอง หากขาดไส้กรองแล้ว เครื่องกรองน้ำจะไม่สามารถกรองน้ำให้สะอาดได้นั่นเอง

สำหรับคุณสมบัติของไส้กรองจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบของเครื่องกรองน้ำแต่ละประเภท แต่โดยปกติแล้วหลักการทำงานของไส้กรองจะมี 2 แบบด้วยกัน คือ ไส้กรองแบบปล่อยให้น้ำทะลุผ่านและไส้กรองแบบที่น้ำผสมทำปฏิกิริยากับสารกรอง ซึ่งเราสามารถจำแนกไส้กรองประเภทต่าง ๆ และความสามารถในการใช้งานได้ดังนี้

  1. ไส้กรองหยาบ มีความสามารถในการกรองและขนาดที่ต้องการ เป็นไส้กรองเบื้องต้นที่เครื่องกรองน้ำทุกเครื่องต้องมี จึงมักอยู่ที่ขั้นตอนแรกเพื่อทำการกรองฝุ่น ผง สารแขวนลอย สนิมเหล็ก โคลนและสิ่งสกปรกต่าง ๆ
  2. ไส้กรองน้ำคาร์บอนบล็อก มีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่น สี สารเคมี คลอรีน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทำหน้าที่เป็นทั้งไส้กรองและสารกรองในตัว จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับเครื่องกรองน้ำในปัจุบัน
  3. ไส้กรองน้ำเรซิ่น ช่วยลดปริมาณหินปูน ช่วยให้น้ำไม่กระด้าง นอกจากนี้ยังช่วยลดสารละลายจำพวกหินปูน ลดการเกิดนิ่วและช่วยให้น้ำมีรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น
  4. ไส้กรองน้ำเซรามิก ช่วยลดและกรองเชื้อแบคทีเรียได้
  5. ไส้กรองน้ำโพสคาร์บอน ช่วยปรับสภาพน้ำ ปรับค่า PH และปรับรสชาติของน้ำให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งไส้กรองประเภทนี้จะเป็นไส้กรองที่อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการกรอง จึงไม่ได้มีส่วนกรองให้น้ำสะอาด

ทั้งหมดนี้คือหน้าที่และความสามารถในการกรองของไส้กรองประเภทต่าง ๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยทราบ ซึ่งไส้กรองแต่ละประเภทจะเหมาะสมกับเครื่องกรองน้ำประเภทต่าง ๆ ดังนั้นก่อนการตัดสินใจซื้อผู้ใช้งานจำเป็นต้องศึกษาและเปลี่ยนเทียบความสามารถในการกรอง เพื่อให้ได้เครื่องกรองน้ำที่ดีที่สุดสำหรับคุณนั่นเอง…

7.เทคนิคการดูแลเครื่องกรองน้ำ

เมื่อพูดถึงการดูแลและบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำ คงต้องยอมรับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากกับคุณภาพและความสามารถในการกรอง เพราะเครื่องกรองน้ำที่ผ่านการใช้งานมาได้สักระยะ ความสามารถในการกรองจะลดลง ดังนั้นผู้ใช้งานจึงจำเป็นต้องรู้จักวิธีการดูแลและบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำพื้นฐาน เพื่อให้สามารถดูแลและบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำได้ด้วยตัวเอง

ในส่วนของการดูแลและบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยในลำดับแรกผู้ใช้งานจำเป็นต้องรู้ว่าเครื่องกรองน้ำที่ใช้อยู่เป็นแบบใด จึงจะสามารถดูแลและบำรุงรักษาได้อย่างเหมาะสมที่สุด ดังนี้

  1. เครื่องกรองน้ำแบบทรายกรอง ควรล้างย้อนทำความสะอาดทุก ๆ 10 – 15 วัน และล้างทำความสะอาดภายนอกทุก ๆ 6 เดือน
  2. เครื่องกรองน้ำแบบเรซิ่น ควรทำการฟื้นสภาพด้วยการเปลี่ยนน้ำเกลือจำนวน 3 ลิตร ทุก ๆ 15 – 30 วัน เพราะหากทิ้งไว้เป็นเวลานานความสามารถในการกรองน้ำจะลดลง
  3. เครื่องกรองน้ำที่มีไส้กรองเซรามิก ควรถอดไส้กรองออกมาทำความสะอาดด้วยใยขัดเซรามิกเป็นประจำ เพื่อลดการอุดตันของไส้กรอง ซึ่งนอกจากการทำความสะอาดแล้ว ควรนำไส้กรองเซรามิกไปต้มในน้ำเดือดเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนนำกลับมาใช้ตามปกติ
  4. เครื่องกรองน้ำที่มีหลอดอุลตร้าไวโอเลต ควรทำความสะอาดหลอดภายนอกเป็นประจำและเปลี่ยนหลอดเมื่อครบชั่วโมงการใช้งาน
  5. เครื่องกรองน้ำแบบคาร์บอนกัมมันต์ ควรล้างสารกรองคาร์บอนโดยการล้างแบบย้อนกลับ ให้ล้างจนกระทั่งน้ำใส จะช่วยให้ความสามารถในการกรองกลับมามีประสิทธิภาพเหมือนเดิม

เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ เครื่องกรองน้ำที่เราใช้อยู่ก็ได้รับการดูแลและบำรุงรักษาอย่างดี ช่วยให้มีอายุในการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นและการกรองมีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกครั้ง…

 

8.เครื่องกรองน้ำระบบ RO กับ UV แบบไหนดีกว่ากัน

มีผู้ใช้งานเครื่องกรองน้ำหลายคนสงสัยว่า เมื่อจะซื้อเครื่องกรองน้ำจะซื้อแบบไหนดี จึงจะดีที่สุดและเหมาะสมกับรูปแบบในการใช้งานของเรา โดยเฉพาะเครื่องกรองน้ำระบบ RO และระบบ UV ที่กำลังได้รับความนิยมและถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในขณะนี้ด้วยแล้ว ทั้ง 2 ประเภทนี้แบบไหนที่ดีกว่ากัน

ก่อนอื่นเราควรทำความรู้จักกับเครื่องกรองน้ำแต่ละประเภทก่อน เพื่อให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นก่อนการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ โดยเริ่มจากเครื่องกรองน้ำระบบ RO

  • เครื่องกรองน้ำระบบ RO เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีขั้นตอนในการกรองอย่างละเอียดถึง

5 ขั้นตอน ซึ่งประกอบไปด้วย

  • Sediment Filter
  • Carbon Filter
  • Carbon Resin
  • Membrane Filter
  • Post Carbon

ทำให้สามารถกรองน้ำได้อย่างสะอาดถึง 99.999% เลยทีเดียว แต่ข้อเสียของเครื่อง

กรองน้ำประเภทนี้คือมีราคาแพงมากที่สุดกว่าเครื่องกรองน้ำทั้งหมด ที่สำคัญด้วยความสามารถในการกรองที่สะเอียดที่สุดนี้ อาจทำให้แร่ธาตุที่จำเป็นถูกกรองออกไปด้วย

  • เครื่องกรองน้ำระบบ UV เป็นเครื่องกรองน้ำที่เพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค

ด้วยแสง UV เพื่อให้น้ำที่ผ่านการกรองเป็นน้ำที่สะอาดมากที่สุดเช่นกัน แต่มีข้อดีคือแร่ธาตุที่จำเป็นจะไม่ถูกกรองทิ้งไป ถึงแม้ความสะอาดของน้ำจะไม่สะอาดมากที่สุดเท่ากับเครื่องกรองน้ำระบบ RO ก็ตาม

เพราะฉะนั้น งานนี้ผู้ใช้งานอาจต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าต้องการเครื่องกรองน้ำประเภทไหน หรือเครื่องกรองน้ำประเภทไหนที่เหมาะสมมากที่สุดกับรูปแบบในการใช้งานของตน เพราะเครื่องกรองน้ำทั้ง 2 ประเภทนี้ถือว่ามีความสามารถในการกรองไม่แตกต่างกันมากนัก

9.เครื่องกรองน้ำมีแบบไหนบ้างมาทำความรู้จักกัน

          การออกแบบเครื่องกรองน้ำให้สามารถตอบสนองทุกรูปแบบการใช้งานนั้น ถึงแม้ว่าจะดูเป็นเรื่องที่ยากมากในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเครื่องกรองน้ำที่มีจำหน่ายอยู่ในทุกวันนี้จะมีรูปแบบเพียงน้อยนิดอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะหากศึกษาจริง ๆ เราจะพบว่ามีเครื่องกรองน้ำหลายรูปแบบให้เราเลือกใช้งานในทุกความต้องการ

สำหรับเครื่องกรองน้ำรูปแบบต่าง ๆ นั้น ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับรูปแบบในการใช้งานและยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือเปลี่ยนน้ำที่ไม่สะอาดและอาดมีสารปนเปื้อนเป็นจำนวนมาก ให้สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย และต่อไปนี้คือเครื่องกรองน้ำรูปแบบต่าง ๆ ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั้งหมด

  1. เครื่องกรองน้ำแบบใช้ Ozone ในการทำปฏิกิริยากับเชื้อจุลินทรีย์และสารอินทรีย์ต่างๆ ในน้ำ ทำให้น้ำดูใสสะอาดและมีรสชาติดี
  2. เครื่องกรองน้ำแบบ KDF สามารถกรองคลอรีน เชื้อโรค และโลหะหนักได้ โดยจดลิขสิทธิ์ไว้โดยบริษัท KDF ในสหรัฐอเมริกา
  3. เครื่องกรองน้ำแบบ Iodine Resin สามารถทำลายแบคทีเรียและไวรัสได้ในทันที
  4. เครื่องกรองน้ำแบบ Ion Exchange เป็นเครื่องกรองน้ำไม่ใช้ไฟฟ้าที่มีลักษระคล้ายกับเครื่องกรองน้ำแบบ Iodine Resin
  5. เครื่องกรองน้ำแบบใช้รังสี หรือ Ultraviolet มีคลื่นความถี่ระหว่าง 200-300 นาโนเมตร สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทั้งหมด ยกเว้นเชื้อโรคจะซ่อนตัวอยู่กับผงละอองเท่านั้น
  6. เครื่องกรองน้ำแบบ Reverse Osmosis (RO) เป็นเครื่องกรองน้ำที่ไม่ใช้สารเคมีหรือไฟฟ้า สามารถทำให้น้ำปราศจากสิ่งเจือปนถึง 99%
  7. เครื่องกรองน้ำแบบ Activated Tricalcium Phosphate (ATP) สามารถกำจัดฟลูออไรด์และสิ่งเจือปนต่างๆ โดยไม่ใช้ไฟฟ้า
  8. เครื่องกรองน้ำแบบ Carbon Block สามารถกรองเชื้อจุลินทรีย์และสารปนเปื้อนได้
  9. เครื่องกรองน้ำแบบ Distillation ทำให้น้ำเดือดเกิดเป็นไอน้ำ จากนั้นทำไอน้ำให้เย็นลงแล้วกลับมาเป็นน้ำกลั่น โดยน้ำกลั่นนี้ไม่มีสารตกค้างและไม่มีเกลือแร่ 100%
  10. เครื่องกรองน้ำแบบ Ceramic สามารถล้างและนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง ช่วยให้ประหยัดมากขึ้น

ทั้งหมดนี้คือเครื่องกรองน้ำที่มีวางจำหน่ายให้เราเลือกซื้อตามความต้องการ ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและความสามารถที่แตกต่างกัน หากต้องการซื้อมาใช้งานจริง ๆ อาจต้องปรึกษากับผู้แทนจำหน่ายที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญ ให้ผู้แทนจำหน่ายแนะนำเครื่องกรองน้ำที่ดีที่สุดและตรงกับความต้องการของคุณ เท่านี้คุณก็จะได้เครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับรูปแบบในการใช้งานของคุณมากที่สุดแล้ว…

10.เครื่องกรองน้ำที่ดี เป็นอย่างไร

การใช้งานเครื่องกรองน้ำในทุกวันนี้ถือว่ามีความสำคัญและจำเป็นในความเห็นของทุกคนมากขึ้น ถึงแม้ว่าน้ำประปาที่เราเคยใช้ดื่มกันทั่วไปจะผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วก็ตาม แต่ด้วยสภาพแวดล้อมและสภาพของน้ำที่มีความเสื่อมโทรม ทำให้ทุกคนหวั่นใจว่าในน้ำที่ดื่มจะมีสารปนเปื้อนและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพหากดื่มเป็นประจำทุกวัน ทำให้เครื่องกรองน้ำเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างที่เราทุกคนได้เห็น

ปัจจุบันเครื่องกรองน้ำที่ผลิตออกมาตอบสนองการใช้งานของทุกคนนั้นมีมากมายหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะช่วยให้น้ำที่เราดื่มมีความสะอาดมากขึ้น แล้วอย่างนี้เครืองกรองน้ำแบบไหนล่ะที่ดีจริง ๆ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องกรองน้ำที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน

คุณสมบัติของเครื่องกรองน้ำที่ดี

  1. สามารถในการกรอง

          เครื่องกรองน้ำที่ดีต้องมีความสามารถในการกำจัดสารโลหะ ตะกอน สนิมเหล็ก คาร์บอน กลิ่น สี คลอรีน สารอินทรีย์ เรซิ่นและหินปูน รวมไปถึงช่วยลดความกระด้างในน้ำและดูดซับสีต่าง ๆ อีกด้วย

  1. คุณสมบัติไส้กรอง

          เครื่องกรองน้ำที่ดีควรมีไส้กรองที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นไส้กรองประเภทไหนก็แล้วแต่ต้องมีคุณสมบัติในการกรองที่ช่วยให้น้ำสะอาดมากขึ้น ช่วยกำจัดอันตรายต่าง ๆ ที่อาจปนเปื้อนมากับน้ำ ช่วยให้เราสามารถดื่มน้ำได้อย่างปลอดภัย

  1. เหมาะสมกับการใช้งาน

          เครื่องกรองน้ำที่ดีต้องเหมาะสมกับรูปแบบในการใช้งานด้วย ควรมีขนาดพอเหมาะ ไม่เล็กและใหญ่จนเกินไป มีรูปแบบในการทำงานที่ง่ายและเราสามารถดูแล รวมทั้งบำรุงรักษาให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหล่านี้คือเครื่องกรองน้ำที่ดีและเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้งาน เพราะฉะนั้นหากบ้านไหนกำลังมองหาเครื่องกรองน้ำอยู่ล่ะก็ ลองนำคุณสมบัติที่เรานำมาฝากนี้ไปหาซื้อเครื่องกรองน้ำที่ดีสำหรับคุณดู รับประกันว่าคุณจะต้องได้เครื่องกรองน้ำที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน…